ทำไม รองเท้าทำงานต้องมี ISO ? ISO 20345 ต่างจาก ISO 20347 อย่างไร
- sathimuttikul
- 8 พ.ค.
- ยาว 2 นาที

เมื่อพูดถึงรองเท้าสำหรับมืออาชีพ โดยเฉพาะในสายงานที่ต้องการความปลอดภัยและความคล่องตัวสูงอย่างอุตสาหกรรมอาหารและบริการ ไม่ใช่แค่ดีไซน์หรือความสบายเท่านั้นที่เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ "มาตรฐาน" คือหัวใจหลักที่การันตีว่ารองเท้าคู่นั้นๆ สามารถปกป้องเท้าของคุณจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในที่ทำงานได้จริง อีกทั้งยังอยู่ในข้อกำหนดในการสวมเครื่องอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล แล้วมาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นอย่างไร ? ในท้องตลาดมีทั้งรองเท้าที่ระบุว่าผ่านมาตรฐาน ISO, EN, หรือ TIS (มอก. ของไทย) แล้วมาตรฐานเหล่านี้คืออะไร? แตกต่างกันอย่างไร? และเราควรให้ความสำคัญกับมาตรฐานไหน? บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างครับ
ความแตกต่างเบื้องต้น: รองเท้าสำหรับใช้งานทางวิชาชีพ (Occupational) vs. รองเท้านิรภัย (Safety)
ก่อนจะลงลึกเรื่องมาตรฐาน สิ่งสำคัญคือต้องแยกประเภทของรองเท้าให้ถูก:
1. รองเท้าสำหรับใช้งานทางวิชาชีพ (Occupational Footwear):
มักเน้นคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น การกันลื่น, ความสบาย, การระบายอากาศ หรือคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็นต่องาน แต่ ไม่มีหัวรองเท้าป้องกันการกระแทก (No Safety Toe Cap) มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องหลักๆ คือ EN ISO 20347
2. รองเท้านิรภัย (Safety Footwear):
มีคุณสมบัติเหมือนรองเท้าสำหรับใช้งานทางวิชาชีพ แต่ มีหัวรองเท้าป้องกันการกระแทก (Safety Toe Cap) ที่สามารถทนแรงกระแทกและแรงบีบอัดได้ตามที่มาตรฐานกำหนด เพื่อป้องกันนิ้วเท้าจากวัตถุตกใส่หรือการชนกระแทก มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องหลักๆ คือ EN ISO 20345
มาตรฐานสากลยอดนิยม: ISO และ EN (European Norm)
มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization) และ EN (European Norm) เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมักจะถูกอ้างอิงหรือนำมาปรับใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ปัจจุบันมาตรฐาน EN สำหรับรองเท้าเซฟตี้ มักจะสอดคล้องกับ ISO (ใช้รหัส EN ISO)

EN ISO 20345 (รองเท้านิรภัย - Safety Footwear):
กำหนดให้รองเท้าต้องมี หัวป้องกันการกระแทก ที่ทนแรงได้ 200 จูล และแรงบีบอัด 15 กิโลนิวตัน
มี ระดับการป้องกันพื้นฐาน (SB - Safety Basic) ซึ่งครอบคลุมคุณสมบัติหัวกันกระแทกและการกันลื่นพื้นฐาน
มี ระดับการป้องกันเพิ่มเติม ที่ระบุด้วยรหัสต่างๆ เช่น:
S1: SB + ป้องกันไฟฟ้าสถิต (Antistatic) + พื้นรองเท้าดูดซับแรงกระแทก (Energy Absorption) + บริเวณส้นเท้าแบบปิด
S1P: S1 + พื้นรองเท้าป้องกันการทะลุ (Puncture Resistance)
S2: S1 + ป้องกันน้ำซึมผ่าน (Water Penetration and Absorption)
S3: S2 + พื้นรองเท้าป้องกันการทะลุ (Puncture Resistance) + พื้นรองเท้ามีปุ่ม (Cleated Outsole)
SRC: ผ่านการทดสอบการกันลื่นบนพื้นเซรามิกเปียกด้วยสารละลายโซเดียมลอริลซัลเฟต (SRA) และพื้นโลหะด้วยกลีเซอรอล (SRB) - เป็นมาตรฐานกันลื่นระดับสูงสุดและสำคัญมากสำหรับงานอาหาร/บริการ
EN ISO 20347 (รองเท้าสำหรับใช้งานทางวิชาชีพ - Occupational Footwear):
ไม่มีหัวป้องกันการกระแทก
มี ระดับการป้องกันพื้นฐาน (OB - Occupational Basic)
มี ระดับการป้องกันเพิ่มเติม คล้ายกับ S-Class แต่ขึ้นต้นด้วย O เช่น:
O1: OB + ป้องกันไฟฟ้าสถิต + ดูดซับแรงกระแทก + ส้นเท้าปิด
O1P: O1 + พื้นป้องกันการทะลุ
O2: O1 + ป้องกันน้ำซึมผ่าน
O3: O2 + พื้นป้องกันการทะลุ + พื้นมีปุ่ม
SRC: การทดสอบกันลื่นเหมือนกับใน ISO 20345 (สำคัญมากเช่นกัน)

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทย: TIS (มอก.)
มอก. 523-2554 (รองเท้านิรภัย):
เป็นมาตรฐานหลักสำหรับรองเท้านิรภัยในไทย
เกณฑ์หลักๆ มักจะเทียบเคียงกับมาตรฐานสากล ISO 20345 / EN ISO 20345 (ในเวอร์ชันที่อ้างอิง ณ ปี พ.ศ. 2554):
หัวป้องกันการกระแทก: คาดว่าจะกำหนดเกณฑ์ไว้ที่ 200 จูล เช่นกัน
แรงบีบอัด: คาดว่าจะกำหนดเกณฑ์ไว้ที่ 15 กิโลนิวตัน เช่นกัน
คุณสมบัติอื่นๆ: เช่น การกันลื่น, การป้องกันการทะลุ, การป้องกันไฟฟ้าสถิต มักจะมีข้อกำหนดที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานสากล แต่รายละเอียดการทดสอบหรือการระบุระดับอาจแตกต่างกันบ้าง ผู้ใช้งานควรตรวจสอบรายละเอียดบนฉลาก มอก. หรือเอกสารกำกับ
การได้รับเครื่องหมาย มอก. แสดงว่าผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
เลือกมาตรฐานไหนดีสำหรับงานอาหารและบริการ?
สำหรับมืออาชีพในสายงานอาหารและบริการ ควรพิจารณา:
การกันลื่น (Slip Resistance): มองหา SRC (ตามมาตรฐาน ISO/EN) หรือเทียบเท่าในมาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นการทดสอบที่ครอบคลุมที่สุด
ประเภทของรองเท้า:
งานครัว/พื้นที่เสี่ยงของตกใส่: เลือกรองเท้านิรภัย (Safety - มีหัวกันกระแทก) มาตรฐาน EN ISO 20345 (เช่น ระดับ SB S2 SRC หรือ S3 SRC) หรือ มอก. 523 ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่า
งานบริการหน้าร้าน/พื้นที่เสี่ยงน้อย: อาจเลือกรองเท้าสำหรับใช้งานทางวิชาชีพ (Occupational - ไม่มีหัวกันกระแทก) มาตรฐาน EN ISO 20347 (เช่น ระดับ O2 SRC หรือ OB SRC) ที่เน้นความสบายและการกันลื่น
การรับรอง: การเลือกรองเท้าที่ได้รับการรับรองจาก ทั้งมาตรฐานสากล (ISO/EN) และมาตรฐานไทย (TIS/มอก.) จะเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือที่สุด
บทสรุป
การทำความเข้าใจมาตรฐานรองเท้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ISO, EN, หรือ TIS (มอก.) ช่วยให้เราสามารถเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับความเสี่ยงในงานได้อย่างถูกต้อง มาตรฐานสากลอย่าง ISO/EN เป็นที่ยอมรับทั่วโลกและมีการจำแนกคุณสมบัติที่ชัดเจน ในขณะที่ TIS (มอก.) เป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ซึ่งมักจะเทียบเคียงกับมาตรฐานสากล
การเลือกรองเท้าจากแบรนด์ที่ใส่ใจและได้รับการรับรองตามมาตรฐานเหล่านี้ (โดยเฉพาะมาตรฐานสากลที่เข้มงวด) ถือเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย สุขภาพ และความเป็นมืออาชีพของคุณในระยะยาว อย่าลืมตรวจสอบฉลากและคุณสมบัติให้มั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ทุกก้าวของคุณในที่ทำงาน เป็นก้าวที่ปลอดภัยและมั่นคง
Comentarios